ขั้นตอนและวิธีการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
1. กระบวนการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
โดยทั่วไป การคัดเลือกและการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา มีขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- การประเมินความจำเป็นในการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
- การกำหนดวิธีการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษา
- การคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาให้เหลือน้อยราย
- การเรียกข้อเสนอโครงการ
- การรับข้อเสนอโครงการ
- การพิจารณาข้อเสนอโครงการ
- การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค
- การพิจารณาข้อเสนอด้านการเงิน
- การเจรจาและคัดเลือก
- การเจรจาต่อรองสัญญา และลงนามในสัญญา
- การกำกับการดำเนินงานของวิศวกรที่ปรึกษา
- การบริหารสัญญา
2. การเตรียมการ
ผู้ว่าจ้างต้องจัดทำเอกสารแสดงรายละเอียดของโครงการที่ชัดเจน และมีรายละเอียดเพียงพอที่วิศวกรที่ปรึกษาจะเข้าใจถึงงานที่จะให้ทำ ซึ่งควรมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- กำหนดขอบเขตของงานที่จะจ้าง
- ระบุเงื่อนไขของสัญญาให้ชัดเจนรวมทั้งรายละเอียดการจ่ายค่าจ้าง
- ระบุข้อมูลต่างๆ ซึ่งอาจมีผลต่อความเสี่ยงของโครงการ
- ระบุถึงความเสี่ยงต่างๆซึ่งเป็นที่ยอมรับของฝ่ายผู้ว่าจ้างและซึ่งเป็นที่ยอมรับของฝ่ายวิศวกรที่ปรึกษา
- ระบุข้อมูลสนับสนุนที่ต้องการให้วิศวกรที่ปรึกษาจัดหา
- ระบุชื่อบุคคลที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่วิศวกรที่ปรึกษาได้
- ระบุระยะเวลาที่มีอยู่ เพื่อให้วิศวกรที่ปรึกษาเตรียมการสำหรับการให้บริการ
- ระบุให้ชัดเจนว่าวิศวกรที่ปรึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพใดบ้าง
- ให้เวลาแก่วิศวกรที่ปรึกษาในการพิจารณาตัดสินใจอย่างเพียงพอ
- ให้ความสนใจต่อสภาวะพิเศษที่สัญญาอาจต้องครอบคลุมถึง ซึ่งในสภาวะปกติไม่มีความจำเป็น
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้วิศวกรที่ปรึกษาใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- ก่อนการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษา ต้องไม่บังคับให้วิศวกรที่ปรึกษาให้บริการทางวิชาชีพโดยไม่มีค่าบริการ
- ยินยอมให้วิศวกรที่ปรึกษาเสนอข้อเสนอทางเลือก (Alternative Proposal)
3. วิธีการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
การจ้างวิศวกรที่ปรึกษาแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ การจ้างที่ปรึกษาและการจ้างออกแบบและควบคุมงาน
3.1 การจ้างที่ปรึกษา มิวิธีการจ้าง 2 วิธี คือ วิธีตกลง และ คัดเลือก
(1) การว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาโดยวิธีตกลง คือการว่าจ้างตรง (Direct Hiring) เจาะจงเฉพาะตัวบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณเหมาะสมกับภารกิจ และเป็นบุคคลที่ผู้ว่าจ้างเคยทราบหรือเคยเห็นความสามารถและผลงานแล้ว และเป็นผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ โดยทั่วไป การว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาโดยวิธีตกลง ควรทำในกรณีต่อไปนี้
- ผู้เชี่ยวชาญในงานที่จะให้บริการตามที่ต้องการมีจำนวนจำกัด
- เป็นการว่าจ้างที่มีวงเงินไม่สูง
- เป็นการว่าจ้างที่ต้องกระทำโดยเร่งด่วนหรือเป็นงานต่อเนื่อง
- เป็นการว่าจ้างสถาบันวิชาการของรัฐ หรือองค์กรวิศวกรที่ปรึกษาของรัฐ หรือองค์กรที่มีกฎหมายรับรอง
(2) การว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก เป็นการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์เหมาะสมกับลักษณะงานของโครงการ โดยผ่านที่ผู้ว่าจ้างมีรายชื่อวิศวกรที่ปรึกษาที่มีผลงานกับหน่วยงานนั้นๆ อยู่แล้วหรือใช้กระบวนการคัดเลือกให้มีรายชื่อน้อยรายโดยมีจำนวนไม่เกิน 6 ราย เพื่อจะเชิญชวนยื่นข้อเสนอทางด้านเทคนิคและทางด้านราคา
3.2 การจ้างออกแบบและควบคุมงาน มีวิธีการจ้าง 4 วิธี คือ วิธีตกลง วิธีคัดเลือก วิธีแบบจำกัดข้อกำหนด และ วิธีพิเศษ
(1) วิธีตกลง ได้แก่ การจ้างออกแบบและควบคุมงานที่ผู้ว่าจ้างเลือกจ้างผู้ให้บริการรายหนึ่งรายใด ซึ่งเคยทราบหรือเคยเห็นความสามารถแล้ว ทั้งนี้ควรใช้กับโครงการก่อสร้างที่มีวงเงินงบประมาณไม่สูง
(2) วิธีการคัดเลือก ได้แก่ การจ้างออกแบบและควบคุมงาน โดยผู้ว่าจ้างประกาศเชิญชวน การว่าจ้าง และคณะกรรมการดำเนินการจ้างจะพิจารณาคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีข้อกำหนดเหมาะสมที่สุด
(3) วิธีคัดเลือกแบบจำกัดข้อกำหนด ได้แก่ การว่าจ้างออกแบบและควบคุมงานที่ผู้ว่าจ้างประกาศเชิญชวนการว่าจ้าง และคณะกรรมการดำเนินการจ้างพิจารณาคัดเลือกผู้ให้บริการที่เป็นนิติบุคคล โดยคำนึงถึงฐานะทางนิติบุคคล คุณวุฒิ และประวัติการทำงาน จำนวนวิศวกรที่ประจำและไม่ประจำ หลักฐานแสดงผลงานที่เคยปฏิบัติมาแล้ว ตลอดจนแนวความคิด ในการออกแบบ
(4) วิธีพิเศษ การจ้างโดยวิธีพิเศษ มี 2 ลักษณะ คือ
- วิธีคัดเลือกจ้าง ได้แก่ การจ้างออกแบบและคุมงานในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
- การว่าจ้างโดยการประกวดแบบ ได้แก่ การว่าจ้างออกแบบอาคารที่มีลักษณะพิเศษ เป็นที่เชิดชูคุณค่าทางด้านศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมของชาติ เช่น อนุสาวรีย์ รัฐสภา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ โรงละครแห่งชาติ หรืองานออกแบบอาคารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น สนามกีฬาแห่งชาติ สนามบิน เป็นต้น
4. การคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาให้เหลือน้อยราย
โดยทั่วไป การคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาในขั้นต้นจะเป็นการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาจำนวนไม่ควรเกิน 6 ราย ตามข้อ 10.3.1 (2) เพื่อเชิญให้ส่งข้อเสนอโครงการ การที่เชิญวิศวกรที่ปรึกษาจำนวนจำกัดนั้นมีผลดีดังนี้ คือ
วิศวกรที่ปรึกษาต้องเสียค่าใช้จ่ายมากในการทำข้อเสนอ การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคต้องใช้เวลามาก หากมีวิศวกรที่ปรึกษาจำนวนมากเกินไปจะทำให้การพิจารณาขอเสนอด้านเทคนิคไม่ละเอียดรอบคอบเท่าที่ควรหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาให้เหลือน้อยรายมีดังนี้ คือ
- ประสบการณ์และผลงานที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
- ความพร้อมในการดำเนินงาน เช่น บุคลากรและไม่ผูกพันกับโครงการอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน
- ความเข้าใจในโครงการ ประเมินได้จากจดหมายแสดงความจำนงที่จะเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เหลือน้อยราย
5. การเรียกข้อเสนอโครงการ
ผู้ว่าจ้างจะเรียกข้อเสนอโครงการจากวิศวกรที่ปรึกษา ก็ต่อเมื่อมีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จลุล่วงได้ และได้จัดเตรียมแหล่งเงินสำหรับจ่ายค่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาไว้แล้ว โดยผู้ว่าจ้างอาจกำหนดให้ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาพร้อมกัน โดยแยกเป็น 2 ซอง หรือยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคเพียงซองเดียวก็ได้
5.1 การคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาเพื่อเชิญให้ยื่นข้อเสนอโครงการผู้ว่าจ้างอาจคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาให้เหลือน้อยรายเพื่อเชิญให้ยื่นข้อเสนอโครงการ โดย ต้องกำหนดคุณสมบัติของวิศวกรที่ปรึกษาด้วยความเป็นธรรม
5.2 การเชิญวิศวกรที่ปรึกษาให้ยื่นข้อเสนอโครงการผู้ว่าจ้างต้องให้เวลาแก่วิศวกรที่ปรึกษามากพอที่วิศวกรที่ปรึกษาจะใช้ในการทำข้อเสนอโครงการในการนี้เอกสารเชิญชวนให้ยื่นข้อเสนอโครงการต้องประกอบด้วย
- ขอบเขตและรายละเอียดของงานที่ต้องการอย่างเพียงพอ
- สถานที่ วันและเวลา ที่จะรับเอกสารรายละเอียดโครงการ
- เวลา และสถานที่สำหรับยื่นข้อเสนอโครงการ
- งานที่ต้องการ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพหรือไม่
- ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ของฝ่ายผู้ว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาจะติดต่อ ได้
5.3 ขอบเขตและรายละเอียดของงาน (Term of Reference)
เป็นเอกสารที่กำหนดขอบเขตและรายละเอียดของงานที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้วิศวกรที่ปรึกษาดำเนินการ รวมทั้งความรับผิดชอบอื่นๆ โดยทั่วไปเอกสารข้อกำหนดขอบเขตงานควรมีรายละเอียดของงานดังต่อไปนี้
- บทนำ ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ
- วัตถุประสงค์ของงานที่จะจ้าง และผลงานที่ต้องการจากวิศวกรที่ปรึกษา
- ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจของวิศวกรที่ปรึกษา
- ขอบเขตการดำเนินงาน
- ระยะเวลาการดำเนินงาน
- บุคลากรที่ต้องการ
- ระยะเวลาการส่งมอบผลงาน
- การกำกับการทำงานของวิศวกรที่ปรึกษา
- หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ว่าจ้าง
- หน้าที่และความรับผิดชอบของวิศวกรที่ปรึกษา
5.4 การสอบถามรายละเอียด
ผู้ว่าจ้างต้องไม่ให้ข้อมูลแก่วิศวกรที่ปรึกษารายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ โดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลนั้นแก่วิศวกรที่ปรึกษารายอื่น ผู้ว่าจ้างต้องไม่เปิดเผยข้อมูลในข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษารายใดรายหนึ่ง แก่ที่ปรึกษารายอื่น
ผู้ว่าจ้างต้องแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความรู้ดีเกี่ยวกับงานที่ต้องการ เพื่อตอบคำถามของวิศวกรที่ปรึกษา คำถามทุกข้อให้จดบันทึกไว้พร้อมระบุวันเวลาที่ได้รับ
ซึ่งรวมถึงประเด็นปัญหาที่อภิปราย หากมีคำถามใดที่นำไปสู่การค้นพบความผิดพลาด ความคลุมเครือหรือความขัดแย้ง ของเอกสารรายละเอียดโครงการ ผู้ว่าจ้างต้องส่งคำถามดังกล่าวและคำชี้แจงให้วิศวกรที่ปรึกษาทุกรายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร หากมีการจัดประชุมวิศวกรที่ปรึกษาเพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ ต้องจดบันทึกการประชุม และแจกให้วิศวกรที่ปรึกษาทุกราย โดยให้ถือว่าบันทึกการประชุมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ
5.5 การแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ
หากมีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ ผู้ว่าจ้างต้องจัดส่งข้อแก้ไขไปยังวิศวกรที่ปรึกษาทุกรายที่ได้รับเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ โดยให้เวลาแก่วิศวกรที่ปรึกษาอย่างเพียงพอในการพิจารณาการแก้ไขให้ถูกต้อง ก่อนถึงวันครบกำหนดยื่นข้อเสนอโครงการ
หากสมควรอาจเลื่อนวันครบกำหนดยื่นข้อเสนอโครงการออกไปได้ โดยระบุในเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ ต้องระบุให้ชัดเจนว่า ข้อแก้ไขทุกข้อให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ
วิศวกรที่ปรึกษาต้องยืนยันการได้รับเอกสารแก้ไขฯ เป็นลายลักษณ์อักษร และระบุในข้อเสนอโครงการ และยืนยันว่าได้พิจารณาข้อแก้ไขในเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการแล้ว การเปลี่ยนแปลงแก้เล็กๆ น้อยๆ อาจต่อรองกันในขั้นตอนการเจรจาสัญญา
6. การรับข้อเสนอโครงการ
- ผู้ว่าจ้างต้องรักษาความลับในข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษา และผู้ว่าจ้างต้องไม่ใช้ข้อมูลในข้อเสนอโครงการเพื่อประโยชน์ในการว่าจ้างงานให้คำปรึกษาครั้งต่อๆ ไป
- เอกสารรายละเอียดโครงการต้องระบุวิธีการยื่นข้อเสนอโครงการให้ชัดเจน พร้อมระบุวันครบกำหนดยื่นข้อเสนอโครงการ
7. การพิจารณาข้อเสนอโครงการ
- ข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษารายใดที่ไม่เป็นไปตามเอกสารขอบเขตและรายละเอียดโครงการ จะไม่ได้รับการพิจารณา
- ผู้ว่าจ้างจะยอมรับข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษาเฉพาะราย ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ว่าจ้างมากที่สุด
- ผู้ว่าจ้างอาจคัดทิ้งข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษารายใดก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ว่าจ้างต้องปฏิบัติด้วยความซื่อตรง
- หากวิศวกรที่ปรึกษารายใดรายหนึ่งยื่นข้อเสนอที่เป็นทางเลือกอื่น ผู้ว่าจ้างจะต้องไม่ขอราคาของข้อเสนอที่เป็นทางเลือกอื่นนี้จากวิศวกรที่ปรึกษารายอื่นเพื่อการเปรียบเทียบราคา อีกทั้งจะต้องไม่ใช้ทางเลือกใหม่นี้ในการเรียกให้วิศวกรที่ปรึกษายื่นข้อเสนอโครงการใหม่
- หากผู้ว่าจ้างตกลงใจไม่รับข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษาทุกราย และให้วิศวกรที่ปรึกษายื่นข้อเสนอโครงการใหม่ ผู้ว่าจ้างต้องแจ้งเหตุผลให้วิศวกรที่ปรึกษาที่ได้ยื่นข้อเสนอโครงการทุกรายทราบและเชิญให้ยื่นข้อเสนอโครงการใหม่ ผู้ว่าจ้างจะเพิ่มเติมรายชื่อของวิศวกรที่ปรึกษาที่เชิญให้ยื่นข้อเสนอโครงการใหม่ได้เฉพาะต่อเมื่อมีเหตุผลความจำเป็นที่เหมาะสมเท่านั้น
การประเมินข้อเสนอโครงการของวิศวกรที่ปรึกษาให้คำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
7.1 ต้องเป็นไปตามาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพ และได้รับการรับรองในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมจากสภาวิศวกร
7.2 คุณค่าของการให้บริการที่เสนอ
7.3 ระยะเวลาการให้บริการ
7.4 ความพร้อมในด้านวิชาการ การจัดการ ฐานะทางนิติบุคคลและสถานะทางการเงิน
7.5 ผลงานที่เคยปฏิบัติ
7.6 วิธีการทำงานและแผนงาน
7.7 บุคลากร โดยที่ปัจจัยแต่ละข้อดังกล่าวอาจมีน้ำหนักหรือความสำคัญไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างและโครงการที่จะดำเนินการ ดังนั้นจึงควรใช้วิธีการพิจารณาซึ่งมีการคำนึงถึงน้ำหนักความสำคัญของแต่ละปัจจัยประกอบด้วย
8. การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค (Technical Proposal)
ข้อเสนอด้านเทคนิค เป็นเอกสารพื้นฐานที่คณะกรรมการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาจะใช้ในการประเมินความเหมาะสมและความสามารถด้านเทคนิคของวิศวกรที่ปรึกษา โดยทั่วไปการให้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคควรแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
8.1 ประสบการณ์และผลงานของวิศวกรที่ปรึกษา
8.2 วิธีการดำเนินงานและแผนการดำเนินงาน
- ความเข้าใจของวิศวกรที่ปรึกษาในงานตามขอบเขตและรายละเอียดโครงการ
- วิธีการดำเนินงาน (Approach and Methodology)
- ความละเอียดและความเหมาะสมของแผนการดำเนินงาน
- ปริมาณแรงงานของเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติงาน
- ความเหมาะสมในความต้องการสนับสนุนต่างๆ จากผู้ว่าจ้าง
8.3 คุณวุฒิและประสบการณ์ของบุคลากร
8.4 การถ่ายทอดความรู้ด้านเทคนิค (Technology Transfer) แก่บุคลากรของผู้ว่าจ้าง
8.5 การมีส่วนร่วมของผู้ว่าจ้างในคณะทำงาน
9. การพิจารณาข้อเสนอด้านการเงิน (Financial Proposal)
ข้อเสนอด้านการเงิน เป็นเอกสารประกอบที่คณะกรรมการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษาจะใช้ในการประเมินการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษา โดยให้เปิดซองข้อเสนอด้านการเงินของที่ปรึกษาที่มีข้อเสนอด้านเทคนิคที่ดีที่สุด และเจรจาต่อรองให้ได้ราคาที่เหมาะสม
10. การเจรจาและคัดเลือก
- การคัดเลือก ผู้ว่าจ้างจะต้องไม่ใช้ราคาเป็นเครื่องตัดสินในการคัดเลือกวิศวกรที่ปรึกษา ผู้ว่าจ้างต้องเจรจาตกลงราคากับวิศวกรที่ปรึกษาที่มีข้อเสนอทางเทคนิคที่ดีที่สุดจนสุดความสามารถ ก่อนจะเจรจากับวิศวกรที่ปรึกษารายถัดไป
- ผู้ว่าจ้างต้องไม่ใช้ข้อมูลของวิศวกรที่ปรึกษารายใดในการเจรจาต่อรองกับวิศวกรที่ปรึกษารายอื่น
- หลังจากได้วิศวกรที่ปรึกษาแล้ว ผู้ว่าจ้างต้องแจ้งเหตุผลให้วิศวกรที่ปรึกษาทุกรายทราบ และควรแจ้งเหตุผลที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้วิศวกรที่ปรึกษาที่ไม่ได้รับการคัดเลือกทราบด้วย